จากการสอบถามนายประภาสอายุ 58 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า พบรถกระบะ ยี่ห้อ มิสซูบิชิไตตั้น สีขาว ทะเบียน 2 ฒฎ 5783 กรุงเทพมหานคร ขับเข้ามาในซอย 9A ก่อนที่จะเข้ามาจอด บริเวณดังกล่าวและมาขอซื้อไอติมจากลุงที่ขายอยู่ข้างทาง ขณะนั้นตนเองจึงถามไปว่าจะไม่ลงมาเอาไอติมหรอ กล่องเบเกอร์รี่ กล่องใส่ขนม
จู่ ๆ หญิงสาวอาศัยจังหวะที่ฝ่ายชายเผลอ วิ่งหนีลงมาจากรถพร้อมกับคว้าผ้าถุงมาปิดหน้าอก เข้ามาขอความช่วยเหลือจากตนเองและชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ ขณะนั้นฝายชาย ซึ่งไม่ส่วมเสื้อนุ่งเพียงกางเกงขาสั้น เดินตามลงมา พยายามจะเข้ามากระชากแขนหญิงคนดังกล่าวกลับไปที่รถ และบอกว่าไม่ให้มายุ่งเรื่องของผัวเมีย ก่อนผู้ก่อเหตุจะเดินกลับไปที่รถ หยิบขวดน้ำมันเข้ามาสาดใส่หญิงคนดังกล่าวและจุดไฟเผา จนทำให้ตนเองถูกไฟลวกบริเวณแขนไปด้วย
ส่วนหญิงสาวหลังถูกไฟลวก พยายามวิ่งหนีตายลงไปในร่องระบายน้ำ แต่ฝ่ายชายไม่ยอมละมือถือมีดวิ่งตามลงไปในน้ำเข้าไปแทงซ้ำหลายทีจนหญิงสาวแน่นิ่งไป หลังลงมือฝายชายยังข่มขู่คนที่เห็นเหตุการณ์ จนไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย ก่อนที่จะกลับมาขึ้นรถขับรถหนีไปอย่างรวดเร็ว
ต่อมา เมื่อเวลา 16.30 น. นางสาวโชติกา หลานสาวของผู้เสียชีวิต เดินทางมาที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นศพน้าสาว ถึงกับร้องไห้ด้วยความเสียใจ ให้ข้อมูลว่า ผู้ตายคบหากับ นายพิสุทธ์ศิริ อายุ 42 ปี ผู้ก่อเหตุมาสักระยะแล้ว โดยน้าสาว ทำงานอยู่บริษัทในนิคมอุตสาหกรรมบางปู ส่วนน้าเขยทำงานขับรถส่งของ ทั้งคู่คบหากันมาสักระยะแล้ว ตนก็พอจะทราบว่าทั้งคู่เคยทะเลาะกันเรื่องหึงหวงแต่ก็ไม่ได้รุนแรง ก่อนเกิดเหตุตนเองไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเนื่องจากพักอยู่คนละที่ กระทั่งทราบข่าวว่าน้าถูกทำร้ายจนจึงรีบเดินทางมาที่เกิดเหตุ
ทางด้าน พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางปู กล่าวว่า เบื้องต้นสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องหึงหวง ก่อนเกิดเหตุ นายพิสุทธ์ศิริ ผู้ก่อเหตุ น่าจะบังคับฝ่ายหญิงขึ้นรถมา ระหว่างทางเกิดมีปากเสียงกัน ฝ่ายหญิงจึงจะอาศัยจังหวะที่ฝ่ายชายเผลอ เปิดประตูวิ่งมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน กระทั่งฝ่ายชายตามมาลงมือก่อเหตุจนเสียชีวิต ต่อมาเจ้าหน้าที่นำกำลังไปตรวจสอบห้องพักของผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่ย่านตำรุ บางปู แต่ไม่พบตัว เชื่อว่าน่าจะหนีออกนอกพื้นที่แล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี