ยายวัย 61 กระหน่ำแทงตา 74 ดับ ถือมีดเปื้อนเลือดมอบตัว ลั่นติดคุกยังมีวันออก ทนมา 40 ปี แต่ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว
เมื่อเวลา 23.00 น. (6 ก.ย.64) ร.ต.อ.วีรวุฒิ  รัตน์ประโคน  รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์  ได้รับแจ้งเกิดเหตุสามีภรรยาแทงกันเสียชีวิตภายในบ้านหลังหนึ่ง  ในหมู่บ้านโนนรัง  ต.โนนสุวรรณ   จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ  ก่อนจะประสานแพทย์เวร รพ.โนนสุวรรณ  และหน่วยกู้ภัยฯ ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ ตามที่ได้รับแจ้ง   
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเพียงกองเลือดบริเวณประตูรั้วด้านในทางเข้า-ออกบ้าน ส่วนผู้ที่ถูกแทงคือ นายหลวง (ขอสงวนนามสกุล)  อายุ 74 ปี  ญาติและชาวบ้านได้นำส่ง รพ.โนนสุวรรณ เพราะตอนนั้นไม่รู้ว่าเสียชีวิตแล้วหรือยัง จากนั้นจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่ รพ. พบว่าแพทย์กำลังสภาพศพนายหลวง   และคาดว่าน่าจะเสียชีวิตตั้งแต่ที่เกิดเหตุแล้ว โดยสภาพศพถูกของมีคมแทงที่บริเวณลำคอเป็นแผลฉกรรจ์ 3 แผล
จากการสอบถามนายสมดี จันทะคาม ผู้ใหญ่บ้าน ก็ให้ข้อมูลว่าผู้ที่ก่อเหตุใช้มีดแทงนายหลวงเสียชีวิต คือ นางเพ็ญศรี อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของผู้เสียชีวิตเอง และหลังก่อเหตุก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน ได้ถือมีดปลายแหลมเปื้อนเลือดที่ใช้ก่อเหตุมาพบผู้ใหญ่บ้าน ก่อนจะพาเข้ามอบตัวที่ สภ.โนนสุวรรณ      
ด้าน นางสุจิตรา อายุ 30 ปี พนีักงานโรงงานถุงกระดาษคราฟท์ ถุงกระดาษเคลือบมัน หลานสาว บอกว่า ปัจจุบันตายายอยู่ด้วยกัน 2 คน เพราะลูกหลานก็แยกย้ายไปมีครอบครัว แต่ที่ผ่านมาก็เห็นตายายทะเลาะกันบ่อยส่วนมากก็จะเป็นเรื่องหึงหวง  เพราะตาเป็นคนขี้หึงและชอบคิดไปเองทั้งที่ทั้ง 2 คนก็อายุมากแล้ว กระทั่งตอนเช้ายายได้ขอเงินตาเพื่อจะไปงานบุญข้าวประดับดินที่วัดในหมู่บ้าน แต่จู่ๆ ตาก็โวยวายเสียงดังแล้วก็เกิดมีปากเสียงทะเลาะกับยาย ตนจึงรีบชวนยายไปวัดเพราะไม่อยากให้ทะเลาะกัน แต่พอไปวัดกลับมาก็ไม่รู้ว่าตา-ยายทะเลาะกันอีกมั้ย เพราะตนกลับบ้านไปแล้วกระทั่งมารู้อีกทีหลังเกิดเหตุแล้ว ก็ตกใจไม่คิดว่าจะเกิดเหตุสลดแบบนี้

ด้าน นายสมดี ผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็นน้องชายของผู้ก่อเหตุ ก็บอกว่า ที่ผ่านมาเห็นสองตายายทะเลาะกันประจำ เพราะตาเป็นคนเอะอะโวยวายชอบใช้อารมณ์ และมักจะทุบตียายเป็นประจำด้วย โดยตอนเช้าก่อนเกิดเหตุยายจะไปทำบุญข้าวประดับดินที่วัดซึ่งเป็นประเพณีของคนอีสาน แต่ตาก็โวยวายไม่ยอมให้เงินยายซื้อของไปวัดจนเกิดมีปากเสียงทะเลาะกัน  ญาติพี่น้องลูกหลานเห็นก็ห้ามปรามและบอกให้ยายไปวัดไม่ต้องไปทะเลาะกัน กระทั่งตกตอนเย็นก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันอีกเพราะบ้านของตนเองอยู่ตรงข้ามกับบ้านตายาย แต่ก็คิดว่าเป็นเรื่องปกติเพราะทั้งสองก็ทะเลาะกันประจำอยู่แล้วก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุรุนแรง   

กระทั่งผ่านไปสักพักใหญ่ก็เห็นยายเดินถือมีดเปื้อนเลือดมาที่บ้านของตนเองด้วยอาการตื่นตกใจ ตนจึงขอมีจากยายเพราะกลัวยายจะทำร้ายตัวเอง จากนั้นยายก็พูดกับตนเองว่า “ยายสุดๆ แล้ว ทนมา 40 ปี ไม่ไหวแล้ว ติดคุกยังมีวันออก แต่ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว” เพราะทนพฤติกรรมสามีไม่ไหวที่ชอบทุบตี ด่าทอ บางครั้งก็ด่าประจานหาว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี  ขนาดมากินข้าวที่บ้านตัวเองกลับไปสามียังหาเรื่องทะเลาะดังลั่นบ้าน ไม่คาดคิดว่าครั้งนี้จะเกิดเหตุสลดขึ้น