พลอาสาสมัคร ยิงเมีย 8 นัดดับหน้าอำเภอ ก่อนยิงตัวตายคาศาลหลักเมือง แม่เผยปมสลด จดทะเบียนสมรสยังไม่ทันจัดงานแต่ง เมียยืนยันจะขอหย่า

จากกรณี เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 9 ธ.ค. นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ จ. ศรีสะเกษ ได้รับแจ้ง มีเหตุยิงกันเสียชีวิต ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กันทรลักษ์ ไปยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึง พบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีขาว ทะเบียนอุบลราชธานี จอดหน้าบริเวณหน้าเสาธงที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ สภาพกระจกข้างฝั่งคนขับแตกกระจาย

ภายในบริเวณเบาะหน้าฝั่งคนขับ พบร่าง น.ส.เชาวนีย์ อายุ 36 ปี พนักงานโรงงานผลิต ฟิล์มยืด ฟิล์มยืดพันพาเลท ถูกยิงด้วยอาวุธปืน จำนวน 5 นัด เสียชีวิตคาที่ ขณะเดียวกันพบ พลอาสาสมัคร ประยงค์ อายุ 34 ปี สังกัด พัน สห.สน.บก.บก.ทท. เป็นสามีของผู้ตาย ใช้อาวุธปืนชนิดเดียวกัน ยิงเข้ากลางหน้าผากทะลุศีรษะ จำนวน 1 นัด ฆ่าตัวตายตาม ภายในศาลหลักเมืองกันทรลักษ์ เลือดไหลนองพื้น ข้างกายพบอาวุธปืน ขนาด 9 มม. ตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายทั้ง 2 คน เพิ่งจดทะเบียนสมรสกันที่เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร แต่ยังไม่ได้เข้าพิธีแต่งงานตามประเพณี ซึ่งมีแผนจะจัดพิธีแต่งงานในเร็วๆนี้ ต่อมาฝ่ายหญิงขอ วันนัดหย่า แต่ฝ่ายชายไม่ยอมหย่า สุดท้ายตกลงนัดพบกันหน้าอำเภอ เพื่ จดทะเบียนหย่า เมื่อมาถึงหน้าห้องฝ่ายทะเบียน ภายในที่ว่าการอำเภอ ปรากฏว่าคิวยาวต้องรอนาน ทั้งคู่จึงมีปากเสียงทะเลาะกันเสียงดังไปมา จากนั้นฝ่ายหญิงทนรอไม่ไหวจึงตัดสินใจกลับ แล้วเดินออกจากที่ว่าการอำเภอมาขึ้นรถ แต่ฝ่ายชายบอกไม่ให้กลับ จากนั้นฝ่ายชายได้เดินไปที่รถยนต์ของตนเอง พร้อมกับหยิบอาวุธปืนที่พกมาด้วย เดินมาเคาะประตูรถยนต์ให้ฝ่ายหญิงเปิด แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมเปิด จึงชักปืนกราดยิง 8 นัด ทะลุกระจกจนแตกกระจุย เจาะร่างฝ่ายหญิงพรุน เป็นเหตุให้เสียชีวิตคาที่

หลังจากนั้นฝ่ายชาย ได้ขับรถหนีไปจอดที่หน้าศาลหลักเมือง พร้อมถืออาวุธปืนเดินขึ้นไปบนศาลหลักเมือง และกราบไหว้ศาล ก่อนที่จะลั่นไก ฆ่าตัวตายตาม ส่วนสาเหตุยังไม่แน่ชัดว่าเกิดจากการหึงหวงหรือไม่ หรือเกิดจากการไม่เข้าใจกัน จึงเป็นเหตุให้มีการ ฆาตกรรม และ ฆ่าตัวตายตาม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

(11 ธ.ค.64) ญาติพี่น้องได้นำศพของพลอาสาสมัคร ประยงค์ อายุ 34 ปี ซึ่งก่อเหตุยิงภรรยาและยิงศีรษะตัวเองเสียชีวิตที่ศาลหลักเมืองกันทรลักษ์ ออกจาก รพ.ศรีสะเกษ มาที่วัดพระใหญ่ เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา โดยศพของพลอาสาประยงค์สวมชุดปกติขาว จากนั้น สัปเหร่อได้ประกอบพิธีมัดตราสัง และนำผ้าขาวมาคุมร่างเอาไว้ เพื่อจะได้ประกอบพิธีนำศพใส่โลง โดยมี ร.ต.อ.ภาคิน ขันติวงศ์ ร้อยเวรสอบสวน เจ้าของคดี พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่พิมพ์ลายนิ้วมือ มาทำการพิมพ์ลายนิ้วมือผู้เสียชีวิต เพื่อประกอบสำนวนคดีตามกฎหมาย และมีบรรดาญาติพี่น้องพากันมาร่วมพิธีด้วยบรรยากาศที่เศร้าสลด

ทางด้าน นางคำมี อายุ 53 ปี แม่ของพลอาสาสมัครประยงค์ กล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าโศกว่า ปกติแล้วลูกชายของตนเป็นคนสุภาพเรียบร้อย และเคร่งในระเบียบวินัยของทหารมาก ก่อนเกิดเหตุพวกตนได้เดินทางมาจากกรุงเทพฯ โดยมีพลอาสาสมัครประยงค์เป็นผู้ขับรถ เมื่อกลับมาถึงบ้านที่บ้านกระแชง ก็ได้ไปเจรจาพูดคุยกับฝ่ายหญิงที่บ้านของฝ่ายหญิง แต่ว่าฝ่ายหญิงไม่ยินยอม ยืนยันจะหย่าขาดจากกัน และได้นัดหมายกันไปจดทะเบียนหย่าในวันเกิดเหตุ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่เศร้าสลดขึ้นมา ทำให้ตนรู้สึกเสียใจมาก ตนฝากขอโทษไปยังพ่อแม่และครอบครัวของฝ่ายหญิงด้วย