ในประเทศจีน วันที่ 20 พฤษภาคม ถือเป็น “วันแห่งการบอกรัก” ซึ่งมีความหมายเดียวกับวันวาเลนไทน์ เป็นโอกาสสำหรับสารภาพรักหรือออกเดทกับคนรัก อย่างไรก็ตาม ในมณฑลเจ้อเจียง เพิ่งเกิดเรื่องน่าเศร้าในวันดังกล่าว เมื่อสามีบังเอิญจับได้ว่าภรรยาออกเดทกับชายอื่น ลวดมัดปากถุงขนม ลวดมัดปากถุง

ตามรายงานพบว่า นางเอ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว แต่แทนที่จะอยู่บ้านเพื่อฉลองวันพิเศษกับครอบครัวอย่างอบอุ่น เธอกลับตัดสินใจออกไปเดทกับผู้ชายคนอื่น ที่เธอแอบมีความสัมพันธ์อย่างลับๆ ทั้งคู่ไปทานอาหารในโรงแรมแห่งหนึ่ง จากนั้นจึงจูงมือกันออกไปเดินเล่น

ในขณะที่ทั้งคู่กำลังจับมือและกอดกันอย่างหวานชื่นบนถนน จู่ๆ สามีที่กำลังพาลูกสาวออกมาซื้อของก็เห็นภาพนั้นเข้าพอดี เขาเก็บความโกรธไว้ไม่อยู่เมื่อจับได้คาหนังคาเขาว่าภรรยานอกใจ เมื่อนางบีเห็นว่าสีมีกำลังวิ่งตรงเข้ามาก็ประหลาดใจและกลัวมาก ทั้งคู่พยายามวิ่งหนีแต่สามีก็ตามไปดึงชายคู่กรณีไว้ได้ทัน ก่อนชกเข้าที่ใบหน้าและเตะเขาหลายครั้ง อีกฝ่ายมีท่าทีอึ้งและเจ็บปวดมากแต่ไม่กล้าขัดขืน

ในขณะเดียวกันนางบีก็ยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมด และเธอคือคนที่ตกใจที่สุดเมื่อถูกสามีจับได้ว่ามีชู้ แต่สุดท้ายก็ยังตัดสินใจฝ่าเข้าไปหยุดสามีและปกป้องชู้รัก แม้ว่าสามีจะดุด่าและพยายามบอกให้เธอถอยไป แต่เธอก็ยังยืนกรานที่จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องคนรักของเธอให้ปลอดภัย

ทำแม้กระทั่งตบหน้าสามีของตัวเอง ซึ่งการกระทำนี้ทำให้สามีเจ็บปวดและโกรธมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทุกอย่างเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาลูกสาว แต่หลังจากนั้นฝ่ายภรรยาก็ยังคงทำให้อึ้งอย่างต่อเนื่อง เมื่อจู่ๆ ก็ขอร้องสามีให้หยุดทำร้ายชายชู้ โดยใช้ข้ออ้างว่า “คิดถึงลูกทีเถอะ” ซึ่งการยกลูกมาอ้างก็ทำให้เขาหยุดพฤติกรรมรุนแรงลงได้ทันทีจริงๆ

ยังไม่ชัดเจนว่าบทสรุปของเรื่องนี้จบลงอย่างไร และชีวิตการแต่งงานของทั้งคู่จะเป็นอย่างไรต่อไป แต่หลังจากคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่บนโซเชียลเน็ตเวิร์ก เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา ก็ทำให้เกิดข้อถกเถียงมากมาย

“ผู้หญิงคนนี้ไม่มีความละอายใจหรือไง? ต่อหน้าสามีและลูกสาวของตัวเอง ยังกล้าปกป้องชายคนรักที่เป็นชู้ เธอไม่สมควรได้รับการให้อภัยจากครอบครัวเลย”

“เห็นได้ชัดว่าคนนอกใจคือคนผิด แต่เธอกลับทำให้สามีรู้สึกเหมือนเป็นคนไม่ดี ทำให้สถานการณ์ของเขาดูน่าสมเพช”

“ทุกข์ที่สุดคือลูก เห็นแม่มีชู้กับตา เห็นพ่อแม่ทะเลาะกัน แม่ปกป้องบุคคลที่สาม ลูกจะไม่มีวันลืมเลย”