
วันที่ 20 มี.ค. กรณีการแชร์คลิปวงจรปิดปรากฎภาพ ชายคนหนึ่งได้เข้ามาในลิฟต์ ของสถานีรถไฟฟ้า บีทีเอส สนามกีฬาแห่งชาติ ด้วยพฤติกรรมนำมือจุ่มน้ำลายป้ายตามตำแหน่งต่างๆ ในลิฟต์จนทั่ว รวมทั้งควักเป้ากางเกงและป้ายไปยังปุ่มกดต่างๆ
ต่อมาเมื่อเวลา 18.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ปทุมวัน ได้ติดตามชายที่ปรากฎตามคลิปได้แล้วนั้น พบว่าเป็นชาย สัญชาติไทย ชื่อนายเอกชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปีพนักงานร้านจำหน่าย เทปใส,เทปกาว และได้เชิญตัวเข้ามาสอบสวน ซักถาม ตรวจสอบ
จากนั้นในเวลา 19.00น. ได้นำตัวชายคนดังกล่าวขึ้นรถกระบะสายตรวจของสน.ปทุมวัน เพื่อนำตัวชายคนดังกล่าว ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาความผิดตามที่ปรากฎในคลิป
ทั้งนี้การส่งตัวไปตรวจร่างกาย เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยว่ามีอาการป่วยทางจิตจริงหรือไม่ ทั้งนี้หากไม่มีอาการป่วยหรือไม่ติดเชื้อ เตรียมจะแจ้งข้อหาตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองพ.ศ.2535 มาตรา 31 ห้ามมิให้ผู้ใด (1) บ้วนหรือถ่มน้ำลาย เสมหะ บ้วนน้ำหมาก สั่งน้ำมูก เทหรือทิ้งสิ่งใดๆ ลงบนถนน หรือบนพื้นรถ หรือพื้นเรือโดนสาร ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 489 ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ ให้ของแข็งตกลง ณ ที่ใดๆ โดยประการที่น่าจะเป็นอันตรายหรือเดือดร้อนรำคาญแก่บุคคล หรือเป็นอันตรายแก่ทรัพย์
หรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้ของโสโครกเปรอะเปื้อนหรือน่าจะเปรอะเปื้อน ตัวบุคคล หรือทรัพย์ หรือแกล้งทำให้ของโสโครกเป็นที่เดือดร้อนรำคาญ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากพบว่ามีอาการทางจิตจริงก็จะส่งตัวไปรักษาอาการต่อไป
อย่างไรก็ตาม ผู้ก่อเหตุให้เหตุผลว่า “สาเหตุที่นำมือไปป้ายทั่วลิฟต์นั่น เพราะมือเลอะ เลยหาที่เช็ด”