กรณี 4 วัยรุ่น ร่วมกันใช้อาวุธมีดกระหน่ำฟัน 2 พี่น้องบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 3 มิถุนายน ที่ผ่านมา หลังข่าวถูกนำเสนอออกไปได้เพียงวันเดียว ผู้ปกครองได้เริ่มทยอยพาผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัว เนื่องจากทนแรงกดดันของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ไหว โดยนายทิเมศ หรือตะวัน อายุ 18 ปี เชือกมัดกล่องพัสดุ เชือกขาวเกลียว ได้เข้ามอบตัวเป็นคนแรก เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 6 มิถุนายน ซึ่งในภาพกล้องวงจรปิดเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์แต่ไม่ได้ลงไปร่วมก่อเหตุ

ต่อมาในช่วงบายของวันที่ 7 มิถุนายน สองผู้ก่อเหตุได้เดินทางเข้ามอบตัวเช่นกันประกอบด้วย นาย ป๊ะ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นคนชกต่อยผู้บาดเจ็บทั้งสองก่อน ส่วนนายอู๋ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ลงไปยืนถือมีดคุมเชิง และใช้เท้ากระทืบผู้บาดเจ็บ ระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังทำการสอบสวน นายนัทพงษ์ หรือหนึ่ง อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นคนใช้มีดกระหน่ำฟันผู้บาดเจ็บทั้งสอง ผู้ปกครองได้พาเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนด้วยเช่นกัน โดยมีฝ่ายผู้เสียหายกว่าสิบคนมารอดูหน้าผู้ต้องหาทั้งสาม ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าเจรจาฝ่ายผู้เสียหาย เกรงว่าจะเกิดการรุมประชาทัณฑ์ เนื่องจากฝ่ายผู้เสียหายยังอยู่กันในอารมณ์โกรธแค้นที่ถูกรุมทำร้าย

นายหนึ่ง ได้เล่าว่า วันเกิดเหตุ ตนและกลุ่มเพื่อนนั่งดื่มสุรากันที่ห้องพักตั้งแต่ช่วงค่ำ ระหว่างที่นั่งดื่มกันอยู่ ได้มีขวดโซดาปริศนาปามาตกที่หน้าวงเหล้าของพวกตน จึงชักชวนกันออกไปขี่รถตระเวน จนเจอสองผู้บาดเจ็บ ตนซึ่งซ้อนท้ายรถที่มีนายตะวัน เป็นคนขี่แซงรถของผู้บาดเจ็บทั้งสองไป แต่พอหันกับมาเห็นนายอู๋ และนายป๊ะ กำลังชกต่อยผู้บาดเจ็บทั้งสอง และคิดว่าใช่คนที่ปาขวดโซดาใส่ จึงได้กระโดดลงจากท้ายรถเข้ามาใช้มีดกระหน่ำฟันไปหลายครั้ง

ขณะนั้นยอมรับว่าไม่ได้ยินเสียงร้องขอชีวิตจากผู้เสียหายเพราะหูอื้อจากความเมา เห็นเพื่อนก่อเหตุจึงตามเพื่อน ส่วนมีดดาบที่ตนเอาไปด้วยนั้น ซื้อต่อเพื่อนมานานแล้ว ซึ่งพกไว้ป้องกันตัว หลังก่อเหตุจึงพากันแยกย้ายหลบหนี จนมาเห็นข่าวออกจึงเกิดความกลัวเอามีดไปฝากไว้กับเพื่อนที่ย่านลาดกระบัง และเตรียมหลบหนี พ่อและแม่ได้โทรมาบอกให้มอบตัวจึงตัดสินใจเข้ามอบตัว ตนอยากฝากขอโทษฝ่ายผู้บาดเจ็บทั้งสองด้วย และสำนึกผิดที่ทำไปในครั้งนี้ แถมยังก่อเหตุผิดตัวกับคนที่ไม่เกี่ยวข้องอีก

ส่วนทางด้านนายป๊ะ และ นายอู๋ เปิดเผยว่า สำนึกผิดที่ร่วมกันลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ วันเกิดเหตุหลังจากที่มีคนมาปาขวดใส่วงเหล้า นายตะวัน จึงชักชวนพวกตนไปตามหาคนปา ซึ่งซอยที่ตนนั่งดื่มสุรากับซอยที่เกิดเหตุก็อยู่ไม่ไกลกัน นายอู๋ ยอมรับว่าเป็นคนเปิดฉากก่อน ด้วยความโมโหโดยไม่คิดว่าจะเป็นการก่อเหตุผิดคน ทั้งนี้ตนและเพื่อนน้อมรับผิดและฝากขอโทษไปยังฝ่ายผู้บาดเจ็บ ถือเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับชีวิต

เบื้องต้นหลังการสอบสวนเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ร่วมก่อเหตุทั้งสี่คนว่า ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันมีและพกพาอาวุธมีดไปในทางชุมชนเมือง สาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร หลังผู้ก่อเหตุทั้งหมดได้รับทราบข้อกล่าวหาแล้ว จึงนำตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดพิมพ์ลายนิ้วมือบันทึกทำประวัติ ก่อนปล่อยตัวกลับไปชั่วคราว รอส่งสำนวนฟ้องศาลต่อไป