สุราษฎร์ธานี-สลด! วันนี้เกิดเหตุยิงกันตาย 4 ศพเหตุแรกเจ้าของอู่หึงโหดเพื่อนสาวคนสนิทยัวะไปกินข้าวต้มกับลูกค้าตามยิงดับก่อนฆ่าตัวตายตามส่วนอีกเหตุสามียิงภรรยาดับก่อนยิงตัวเองตายตาม

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 00.30 น.วันนี้ (วันที่ 14 ส.ค.65 ) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส ที่ร้านข้าวต้มในพื้นที่ ต.อิปัน จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปตรวจที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณซุ้มที่นั่งไม้ไผ่ พบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อภายหลังคือ นายวิชิต (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี เจ้าของร้านเชือกฟาง เชือกมัดกล่อง อยู่ในพ้นที่ ต.สินปุน อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่กลางหน้าอกอาการสาหัส หน่วยกู้ภัย เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนบนเก้าอี้ที่ซุ้มไม้ไผ่ พบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.ลักษิกา (สงวนนามสกุล)อายุ 35 ปี บ้านเดิมอยู่ในพื้นที่ ต.วารี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย โดยปัจจุบันมาพักอาศัยที่บ้านในพื้นที่ ต.อิปัน อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกันเข้าที่ศีรษะ 1 นัด ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. 2 ปลอก และห่างจากซุ้มที่นั่งไปประมาณ 2 เมตร พบอาวุธปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 1 กระบอก เจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า น.ส.ลักษิกา เป็นเจ้าของร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งใกล้ที่เกิดเหตุ และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายวิชิต ผู้ก่อเหตุ ก่อนเกิดเหตุหลังจากน.ส.ลักษิกา ปิดร้าน ได้มากินข้าวต้มกับลูกค้าผู้ชายคนหนึ่ง ขณะที่ผู้ตายกำลังนั่งกิน ก็ได้มีนายวิชิต ผู้ก่อเหตุ ขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน บย 2133 สุราษฎร์ธานี เข้ามาจอดบริเวณที่เกิดเหตุและได้ใช้อาวุธปืนยิง น.ส.ลักษิกาในระยะประชิดที่ศีรษะทำให้ น.ส.ลักษิกาเสียชีวิตทันที ส่วนนายวิชิตได้นั่งลงข้างๆ ร่างน.ส.ลักษิกา แล้วใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันจ่อยิงที่หน้าอกตัวเอง 1 นัด

ด้าน พ.ต.อ.สมบัติ ฉ่ำแสง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จากการสอบสวนประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ ทราบว่าก่อนหน้านี้พยานได้ไปร่วมดื่มกินกับผู้ตายทั้ง 2 ที่ร้านคาราโอเกะของ น.ส.ลักษิกา ซึ่งเป็นร้านที่นายวิชิตเป็นผู้ลงทุนเปิดร้านให้ และทราบว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน หลัง น.ส.ลักษิกา ปิดร้าน พยานได้ชักชวนทั้ง 2 ไปกินข้าวต้มที่ร้านเกิดเหตุต่อ แต่นายวิชิตปฏิเสธ พยานจึงไปกับ น.ส.ลักษิกา 2 ต่อ 2 จนเมื่อสั่งอาหารเรียบร้อย ก็เห็นนายวิชิตขับรถยนต์ตามเข้ามา เมื่อลงจากรถใช้อาวุธปืนยิง น.ส.ลักษิกาทันที โดยไม่มีการพูดคุยแต่อย่างใด เบื้องต้นเชื่อว่า สาเหตุน่าจะมาจากปัญหาชู้สาว โดยนายวิชิตไม่พอใจที่ น.ส.ลักษิกา ออกไปกินข้าวต้มกับลูกค้าเพื่อนชายโดยที่ตนเองไม่ได้ไปด้วย และได้ตามไปก่อเหตุสลดดังกล่าว

นางสาวเสาวลักษณ์ (สงวนนามสกุล) ลูกสาวของนายวิชิต กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนไม่เคยคลุกคลีกับพ่อไม่เคยรู้ว่าพ่อไปมีปัญหาอะไรกับใครหรือไปมีหญิงอื่น ส่วนในเรื่องที่มีคนบอกว่าพ่อของตนไปลงทุนเปิดร้าน ให้นางสาวลักษิญานั้น ส่วนตัวตนเชื่อ เพราะก่อนหน้านี้พ่อเคยมาพูดเรื่องเงินกับตนอยู่ครั้งหนึ่ง ในส่วนของปมก่อเหตุ ตนยังติดใจ ว่าพ่อของตนยิงตัวเองจริงหรือไม่ จึงตัดสินใจนำศพพ่อมาชันสูตร

ส่วนอีกเหตุ สามีภรรยาฆ่ากันเสียชีวิตทั้งคู่ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา ประมาณ 12.30 น.วันนี้เช่นกันเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตชายหญิง 2 รายในห้องนอน ที่หมู่บ้านกรีนวิลล์ ม.3 ต.วัดประดู่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี โดยเพื่อนบ้านโทรศัพท์แจ้งตำรวจว่าได้ยินสามีภรรยามีปากเสียงทะเลาะวิวาทและได้ยิงเสียงอาวุธปืนจำนวนหลายนัด เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบ พบประตูห้องนอนห้องนอนของบ้านที่เกิดเหตุล็อคจากด้านใน ภายในห้องพบผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย ทราบชื่อ นางสาวกนกวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปีมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ขมับ 1 แผล ลำตัว 3 แผล ส่วนอีกรายคือนายสรรพัชญ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ ศีรษะ 1 แผล เลือดนองพื้น ส่วนมือขวากำอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ตำรวจตรวจสอบพบหัวกระสุน จำนวน 2 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน

จากการสอบถามนางปราณี (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี แม่ของ น.ส.กนกวรรณ ทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวนางปราณีเช่าอยู่กับครอบครัวระหว่างรอปรับปรุงบ้านตัวเองโดยมีลูกสาว ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการที่โรงพยาบาลพุนพินและลูกเขย ซึ่งทำงานขับรถส่งน้ำของบริษัทน้ำดื่มแห่งหนึ่งอาศัยอยู่ด้วย ก่อนเกิดเหตุกลับมาจากพักค้างคืนที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช เมื่อมาถึงลูกสาวและลูกเขยก็เข้าห้องนอน ส่วนสามีตนไปทำงาน และตนออกไปคุยกับช่างทำบ้านใกล้กับบ้านที่เกิดเหตุ จนได้รับโทรศัพท์จากหลานสาวอายุ 9 ขวบ ซึ่งเป็นลูกของผู้ตายทั้งสองว่าพ่อกับแม่ทะเลาะกันและได้ยินเสียงปืนดังหลายนัด เมื่อตนกลับมาถึงก็พบว่าประตูห้องถูกปิดล๊อค จึงได้งัดเข้าไปพบว่าลูกสาวและลูกเขยเสียชีวิตแล้ว

นางปราณี กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาเห็นลูกสาวกับลูกเขยทะเลาะกันบ่อยครั้งเรื่องหึงหวง เนื่องจากลูกเขยคิดว่าลูกสาวมีคนอื่นและในเรื่องของการโพสต์ TikTok และก่อนเกิดเหตุในช่วงเช้าลูกเขยได้พยายามจะขอพูดคุยปัญหากับตน แต่ตนได้บอกว่าให้คุยกับพ่อในตอนเย็น โดยไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุร้ายเสียก่อน ที่ผ่านมาลูกเขยเป็นคนนิสัยดี เงียบขรึมและไม่เคยเล่าปัญหาอะไรให้ฟัง.