จากการสอบสวน นายเนรมิตร ให้การรับสารภาพว่า ตนอยู่กินกับภรรยามาได้ 4 ปี มีลูกชายวัย 1 ขวบเศษ ให้พี่สาวดูแลอยู่ที่ จ.สกลนคร ส่วนตนและภรรยามาทำงานก่อสร้างอยู่กับนายจ้าง ประมาณ 1 เดือนกว่า โดยพักอาศัยอยู่รวมกันกับเพื่อนคนงาน
ก่อนเกิดเหตุช่วงค่ำได้นั่งดื่มเหล้ากันในห้องพัก และมีปากเสียงกัน เนื่องจากภรรยาปันใจให้ชายอื่น เพราะภรรยาเป็นคนหน้าตาดี และตนเคยไปตามที่บ้านชายอื่นกลับคืนมาแล้วหลายครั้ง เมื่อตนพูดเรื่องนี้ขึ้นมาทีไร ภรรยาก็จะดุด่าด้วยคำหยาบคาย
จึงโมโหจนหน้ามืด ประกบกับเมาเหล้า ใช้ท่อนแขนรัดคอภรรยาจนเสียชีวิต และนอนกอดศพภรรยาทั้งคืน ทีแรกไม่คิดว่าจะตาย กระทั่งเวลา 03.00 น. ตนตื่นขึ้นมาพบว่าภรรยาตัวเย็นผิดปกติและไม่หายใจ ไม่รู้จะทำอย่างไร
กระทั่งเช้าจึงเดินไปเล่าเรื่องราวให้นายจ้างฟังที่บ้านที่อยู่ห่างจากบ้านพักประมาณ 200 เมตร และขอชดใช้กรรมที่ตนเองก่อ เพราะสุดจะทนกับพฤติกรรมของภรรยาสุดที่รักคนนี้แล้ว
และขอโทษญาติพี่น้องของภรรยากับเรื่องราวที่เกิดขึ้น และเป็นห่วงลูกชายวัยขวบเศษ ที่อยู่กับพี่สาวของภรรยา ต้องมากำพร้าแม่และพ่อต้องมาติดคุก
ด้าน นางบัวพัน อายุ 60 ปี นายจ้าง เปิดเผยว่า ขณะตนนั่งขายของชำอยู่ที่บ้าน นายเนรมิตรเดินมาบอกตนด้วยอาการเมาเหล้าและน้ำตาคลอว่า ได้พลั้งมือฆ่าภรรยาตายอยู่ภายในห้องพัก ทีแรกตนยังไม่เชื่อ จึงสอบถามรายละเอียดจนแน่ใจ ก่อนโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาควบคุมตัวไปตรวจสอบที่ห้องพัก จึงทราบว่าเป็นเรื่องจริง
สามีภรรยาคู่นี้มาทำงานก่อสร้างอยู่กับสามีตนได้ประมาณ 1 เดือนกว่า เมาแล้วชอบทะเลาะเรื่องหึงหวงกันเป็นประจำ โดยทั้งสองคนมีลูกชายวัยขวบเศษ ที่ให้พี่สาวผู้ตายเป็นคนดูแลอยู่ที่ต่างจังหวัด และผู้ก่อเหตุรักภรรยามาก ไม่คิดว่าจะถึงขั้นฆ่าภรรยาเสียชีวิต
ขณะที่ นายประทีป อายุ 49 ปี เพื่อนผู้ตาย เปิดเผยว่า ตั้งแต่รู้จักกันสามีภรรยาทะเลาะกันในวงเหล้าแทบทุกวันหลังเลิกงาน ในเรื่องที่สามีหึงหวงภรรยา โดยภรรยาก็ดุด่าสามีกลับ ตื่นเช้ามาก็กลับคืนดีกัน นายจ้างก็รู้เรื่องนี้ดี
กระทั่งครั้งนี้ตนไม่คิดเลยว่าจะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งตนเป็นเพื่อนกับทั้งสองคน สามีเป็นคนนิสัยดีไม่ค่อยพูด ส่วนภรรยาชอบดุด่าสามี จนทะเลาะลงไม้ลงมือกันประจำ
ทั้งนี้ หลังจากตำรวจได้นำ นายเนรมิตร สามีหึงโหดรายนี้มาชี้จุดเกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพเสร็จแล้ว ได้ควบคุมตัวไปสอบสวนปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก
เบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่น” ดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป